ท็อปโฟร์ พรีเมียร์ลีก ตอนนี้หลายคนก็น่าจะคงทราบกันดี ว่าตอนนี้เป็นฤดูกาลของการเตะฟุตบอลการแข่งขันของลีกฟุตบอลสโมสรต่างๆหลายประเทศ ซึ่งวันนี้เราจะไม่พูดถึงลีกดังอย่างพรีเมียร์ลีกอังกฤษก็คงเป็นไปไม่ได้ เพราะว่าพรีเมียร์ลีกนั้นเป็นลีกฟุตบอลที่มีแฟนบอลแฟนคลับมากมายทั่วโลก เพราะมีทีมฟุตบอลทีมโปรดมีเหล่าซุปตาร์รวมนักเตะดาวดังจากทั่วโลกนั่นเอง
เรามาเข้าสู่เนื้อหาของข่าวกีฬาที่เราจะเหล่าสู่กันฟังในวันนี้กันจะดีจะได้ไม่ต้องเสียเวลา เพราะว่าในฤดูกาลนี้มีพ่อหมดนั้น ได้ทำนายฟันธงว่าพรีเมียร์ลีกอังกฤษปีนี้ท็อปโฟร์คงไมพ้น 4 ทีมดังอย่างแน่นอนโดย 4 ทีมดังนั้นคือ ลิเวอร์พลู แมนซิตี้ แมนยู และ เชลซี นั่นเอง คนที่ทำนายว่า 4 ทีมท็อปโฟร์ของพรีเมียร์ลีกนั้นไม่ใช่ใครที่ไหน นั่นก็คือตำนานนักเตะเก่าของทีมลิเวอร์พลูอย่าง แกรี่ ลินิเกอร์ นั่นเอง
แต่ก็ไม่แน่อาจจะมีม้ามืดอย่างทีม อาร์เซนอล ให้ระวังไว้ดีดี ซึ่งตอนนี้พรีเมียร์ลีกอังกฤษนั้นก็เดินทางมาครึ่งฤดูกาลแล้ว อันดับหนึ่งนั้นยังคงเป็นทีมสุดแกร่งอย่าง แมนซิตี้ ส่วน อันดับ 2-4 นั้นยังประเมินไม่ได้เพราะคะแนนยังคู่คี่สูสีกันอยู่ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นแล้วก็มีสื่อหลายสำนักและที่สำคัญก็มีดาวดังในอดีตอย่าง แกรี่ ลินิเกอร์ คาดการณ์ไว้ 4 ทีมท็อปโฟร์คงไม้พ้น 4 ทีมนี้แน่นอน
แต่นั่นมันก็เป็นเพียงการคาดเดาเท่านั้น เพราะผลการแข่งขันของพรีเมียร์ลีกอังกฤษในฤดูกาลนี้ยังไม่จบอะไรก็สามารถเกิดขึ้นได้ทั้งนั้น ฟุตบอลลูกกลมๆสามารถเปลี่ยนแปลงได้เสมอบางทีทีมใหญ่อาจจะแพ้ทีมเล็กๆก็ได้ใครจะรู้ ตอนนี้เรามาดูผลคะแนนพรีเมียร์ลีกอังกฤษ และอันดับล่าสุดกันดีกว่าว่าทีมไหนอยู่อันดับที่เท่าไหร่ ทีมโปรดของคุณนั้นมีคะแนนเท่าไหร่อยู่อันดับไหนบ้าง จริงๆเราก็อัพเดตให้ทุกคนอยู่เรื่อยเพราะอันดับจะปรับเปลี่ยนอยู่ตลอดนั้นเอง เรามาเริ่มต้นที่อันดับที่หนึ่งจ่าฝูงของตารางคะแนนพรีเมียร์ลีกก็ยังคงที่มาหลายสัปดาห์ ทำคะแนนทิ้งห่างอันดับสองและสามถึง 10 คะแนนนั้นก็คือทีมยังใหญ่อย่างแมนซิตี้นั่นเอง
และจากการวิเคราะห์ของเหล่าแฟนบอลทั่วโลกนั้น มั่นใจสามารถการันตีได้ว่าปีนี้พรีเมียร์ลีกอังกฤษนั้น แชมป์อาจจะตกเป็นของแมนซิตี้ ซึ่งในตอนนี้แมนซิตี้นั้น แข่งทั้งหมด 26 นัด ชนะ 19 แพ้ 5 นัด มีคะแนนที่ 62 คะแนน นำจ่าฝูงอยู่ ตามมาด้วยอันดับที่ 2 และ 3 อย่าง แมนยูไนเต็ด และ เลสเตอร์ ซิตี้ ที่แข่ง 25 นัดเท่ากัน มีคะแนนร่วม 49 เท่ากันนั้นเอง แต่แมนยูไนเต็ดก็ยังคงอยู่อันที่ 2 เพราะผลแพ้น้อยกว่าเลสเตอร์ ซิตี้ อันดับที่ 4 เป็นทีม เวสต์แฮม แข่ง 26 นัด ชนะ 13 นัด มีคะแนน 45 คะแนน อันดับที่ 5 เป็นทีม เชลซี แข่ง 25 นัด ชนะ 12 นัด มีคะแนน 43 คะแนน ต่อมาอันดับที่ 6 ทีมยังใหญ่แชมป์เก่าเมื่อฤดูกาลที่แล้วอย่าง ลิเวอร์พลู แข่ง 25 นัด ชนะ 11 นัด มีคะแนน 40 คะแนน นี่เป็นการอัพเดตตารางคะแนนล่าสุดของพรีเมียร์ลีกเท่านั้น อันดับมีการเปลี่ยนแปลงเสมอเพราะว่าการแข่งขันในฤดูกาลนี้ยังไม่จบนั้นเอง
ยังไงก็เชื่อว่า เหล่าสาวกทั่วโลกทุกคน ที่มีทีมโปรดของตัวเองอยู่ในพรีเมียร์ลีกอังกฤษนั้น ก็ต้องอย่างให้ทีมรักของตัวเองจบอันดับที่ดีที่สุด หรือคว้าแชมป์อยู่แล้ว แต่ตอนนี้มีทีมเต็งแชมป์ที่ค่อนข้างจะลอยลำอยู่ก็คงจะเป็นทีม แมนซิตี้ อยู่หนึ่งทีม ที่เปอร์เซ็นคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกอังกฤษในฤดูกาลนี้สูงมากนั้นเอง การคว้าแชมป์หรือจบอันดับที่เท่าไหร่นั้นม ันก็ขึ้นอยู่ที่ความพร้อมของผู้เล่นในแต่ล่ะทีมในแต่ล่ะแมตซ์นั้นด้วย ว่ามีความพร้อมแก้เกมพร้อมสู้กับทีมตรงข้ามด้วยมากน้อยแค่ไหน ที่สำคัญสภาพความพร้อมความฟิตของร่างกายนักเตะคือหัวใจของทีมนั้นเอง เพราะว่าการที่จะคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกอังกฤษ หรือจะเป็นลีกฟุตบอลลีกดังต่างๆ ก็ตาม ทุกคนทราบดีว่ามันไม่ใช่เรื่องที่ง่ายเลย ต้องฝ่าฟันกับทีมชั้นนำทีมที่แข่งแกร่งมาเท่าไหร่ถึงจะได้เป็นแชมป์
ทีมที่จะสามารถเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีกอังกฤษนั้น ต้องบอกเลยว่าต้องเป็นทีมที่มีความพร้อมในทุกด้าน โดยเฉพาะตัวนักเตะพร้อมทั้งร่างกายพร้อมทั้งสภาพจิตใจ และต้องเป็นทีมที่แข่งแกร่งจริงๆ ถึงจะเหมาะสมกับการเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีกอังกฤษนั้นเอง
อย่างไรก็ตาม พรีเมียร์ลีกอังกฤษนั้นก็ยังแข่งขันยังไม่จบ เราก็ยังประเมินค่าหรือฟันธงไม่ได้ว่าฤดูกาลนี้ใครจะเป็นแชมป์ เรามักพูดเน้นย้ำอยู่เสมอ ว่าบอลลูกกลมๆ มักจะเกิดความเปลี่ยนแปลงขึ้นได้อยู่เสมอไม่แน่อาจจะเป็นทีมม้ามืดขึ้นมาเป็นแชมป์ก็ยังได้เลย แต่ที่แน่ๆเราก็หวังว่า 4 ทีมที่เราคาดหวังที่กูรูฟังธงว่าเป็น 4 ทีมท็อปโฟร์ในฤดูกาลนี้อย่าง ลิเวอร์พลู แมนซิตี้ แมนยูไนเต็ด และ เชลซี นั้นภาวนาว่าอย่าให้มีทีมไหนหลุดออกจาก 4 ทีมที่ดีที่สุดเลย เชื่อว่าเหล่ากองเชียร์ และสาวกทั่วโลกนั้น เอาใจช่วยลุ้นกันอย่างแน่นอน เพื่อที่จะให้ทีมที่ตัวเองชื่นชอบจนอันดับที่ดีที่สุดของพรีเมียร์ลีกอังกฤษฤดูกาลนี้นั่นเอง
ติดตามอ่าน ข่าวสารแวดวงกีฬาออนไลน์ และ ร่วมแทงบอลออนไลน์และเดิมพันกีฬาออนไลน์ ได้ที่นี่